ความสำเร็จจะไม่เกิดขึ้นถ้าไร้เป้าหมาย หากไม่รู้จุดหมายคุณคงไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นตรงไหน ดังนั้นคุณต้องรู้ให้ได้ก่อนว่า คุณต้องการจะเดินไปทางใดและจะทำเช่นไรให้ไปถึงจุดหมายที่ตั้งไว้ให้ได้และถึงให้เร็วที่สุด อย่าตั้งเป้าหมายหากยังไม่มีความฝัน ความ ฝันเป็นสิ่งที่เราอยากจะทำ อยากจะเป็น อยากสำเร็จ เป็นเรื่องอนาคต เป็นเรื่องความอยาก ดังนั้น หากเป็นไปได้ อย่าตั้งเป้าหมายโดยไม่มีความฝันหากความฝันคุณมีมาก ให้เลือกความฝัน จัดลำดับตามความตื่นเต้นของความฝัน ฝันด้านใดสำคัญที่สุดของคุณ เป็นความฝันด้านการผลิต การกระจายสินค้า ความฝันในการมีทีมงานที่มีความคิดสร้างสรรค์ ความฝันที่จะเป็นองค์กรที่เน้นความพอใจลูกค้าสุดๆ
TOP ที่เก่ง จะรู้ว่าเขาต้องการอะไร เขาจะฝันถึงและตั้งเป้าหมายว่าจะสำเร็จเมื่อไหร่ แค่ไห นเรียกว่าสำเร็จ
หากท่านเป็นองค์กรเอกชน หนีไม่พ้นว่าสิ่งหนึ่งที่สำคัญที่ต้องวัดคือกำไร การที่เป้าหมายไปรวมอยู่จุดเดียวคือกำไร สามารถสร้างปัญหาให้องค์กรได้ในการตีความและใช้กลอุบายให้ได้มา ดังนั้นเป้าหมายที่ดีควรวัดที่กิจกรรม ว่ากิจกรรมอะไรบ้างที่ทำแล้วส่งผลต่อความสำเร็จขององค์กร ส่งผลต่อกำไรซึ่งแต่ละฝ่ายแผนกจะมีความแตกต่างกัน
หากท่านชอบกีฬา ไม่ว่ากีฬาอะไรก็ตาม ผู้คนชอบเล่นกีฬาดูกีฬา เพราะความสนุกสนาน บางครั้งเราเล่นกีฬาเพื่อความสนุกสนานเพื่อกลับไปทำงานอย่างไม่มีความสุขกับ งานที่ทำ กีฬาทุกชนิดมีคะแนน มีกฏ มีกติกา นั่นคือเหตุผลว่าทำไมคนถึงชอบกีฬา เพราะกีฬามีการวัดและให้คะแนนกับทุกสิ่งทุกอย่าง แล้วทำไม่เราถึงไม่เอาความสนุกสนานกับสำนึกแห่งการแข่งขันใส่เข้าไปในการทำ งาน คงตลกมากหากเราเล่น ฟุตบอลที่มีไม่มีการยิงประตู มีแต่เลี้ยงลูกไปมาโดยไม่มีการทำคะแนน ไม่รู้ว่าสำเร็จ หรือไม่สำเร็จ มากกว่านั้นการมีตัวเลขทำให้เราสามารถที่จะทำการปรับปรุงได้อย่างรวดเร็ว
1. ช่วยให้เราเข้าใจและแน่ใจในวิธีที่จะเลือกใช้ เพราะเรามีเวลาและทรัพยากรจำกัด เราจะเลือกทำ ในสิ่งที่ทำให้สำเร็จเท่านั้น
2. ทำให้เราไม่ถอดใจและยอมแพ้ง่ายๆ แม้ว่าเราจะพบความลำบากมากมาย การทมีความฝัน การมีเป้าหมายทำให้เรารู้ว่า เราอยู่ เราสู้ เราทำเพื่ออะไร
3. ช่วยลดความเฉื่อยชาลง การทำสิ่งใดโดยไร้เป้าหมายมักยากจะรู้ว่าสำเร็จหรือไม่และจะทำให้เบื่อในที่สุด
4. เราจะพบกับการแก้ปัญหาให้ตรงจุด การมีเป้าหมายทำให้เราสามารถเชื่อมโยงกับทุกสิ่ง ทำให้เรารู้ว่าสิ่งที่เราทำ มาถูกทิศ ถูกทางหรือไม่
เป้าวัดนี้ โดยทั่วไปเข้าใจทั่วกันคือ KPI ( key performance indicator)
เช่นกับระบบอื่นๆ หากผู้บริหารระดับสุงการขาดการมีส่วนร่วม ขาดการยึดโยงกับการจ่ายค่าตอบแทน ขาดการจูงใจ หากขาดการใส่ใจไม่กำหนดให้ทุกส่วนงานนำ เป้าหมายมาใช้ในการบริหารงาน ระบบการตั้งเป้าหมายจะล้มเหลว เพราะระบบการตั้งเป้าหมายจะเป็นไปโดยไม่ตรงความฝัน ความสนใจของ Top Management
คือการวางแผนอย่างเป็นขั้นตอนตั้งแต่ต้นทาง จนถึงเป้าหมายที่ต้องการ การวางแผนจะทำให้เรารู้เส้นทาง เราไม่ลืมว่าเรากำลังจะเดินทางไปไหน ใกล้หรือไกลจากเป้าหมาย ออกนอกเส้นทางหรือไม่ การกระทำแต่ละอย่างทำให้เราก้าวเดินเข้าไปสู้เป้าหมายหรือไม่อย่างไร รวมถึงจะทำให้เราไม่ละสายตาจากเป้าหมายตลอดเส้นทางการเดิน
สิ่งที่ดีสำหรับการบริหารงานตามเป้าหมาย KPI คือการโฟกัส แต่การโฟกัสจะดีได้ร่อเมื่อเราควบคุมเป้าหมายให้มีจำนวนน้อย แต่ในทางปฏิบัติเรามักมีเป้าหมายมากไป ถ้าเราต้องโฟกัสไปทุกสิ่งทุกอย่าง ก็เท่ากับเราไม่ได้โฟกัสอะไรเลย
มากกว่านั้น ตัวชี้วัดแต่ละอย่างมีแนวโน้มที่จะกำกับทิศทาง ความสนใจของคุณให้เพ่งเล็งอยู่แต่ตรงจุดที่มันบอกคุณ ก็คงคล้ายๆกับการขี่จักรยาน ถ้าคุณหันไปดูอะไรมือของคุณก็มักจะหันไปในทิศทางที่คุณกำลังมอง ผมเดาว่าคุณคงไม่อยากหันรถไปๆมาๆ หรอก
ตัวชี้วัดมีประโยชน์มาก ในการช่วยตัดสินใจว่าเป้าหมายของแต่ละหน่วยงานหรือ แต่ละคนคืออะไรได้อย่างชัดเจน และสามาถทำให้วัดภารกิจงานบริหารได้เป็นรูปธรรม มากกว่านั้นยังใช้ในการเปรียบเทียบต่างหน่วยงาน ต่างกาลเวลาได้อย่างดีเยี่ยม
การเก็บข้อมูล หรือการตรวจสอบเป้าหมาย มีความแตกต่างกันอย่างมากในแต่ละองค์กร ในแต่ละส่วนงาน บางองค์กรในฐานะผู้จัดการอาจต้องการอยากเห็นข้อมูลทุกเช้า ไม่ว่าผลผลิด ความสามารถในการผลิตได้ตามแผน ปัญหาเครื่องจักร ซึ่งข้อมูลเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำเนินกิจการ เราตรวจสอบทุกเช้าเพราะ คุณจะมีโอกาศทำอไรบางอย่าง เพื่อแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ได้ก่อนที่มันจะเกิดขึ้นระหว่างการผลิตของวัน
ถ้าเราจะแก้ปัญหา เราควรแก้ตอนที่ปัญหายังเป็นๆ อยู่จริงไหม ปัญหาที่ตายแล้วรักษาไม่ได้ แก้ไขไม่ได้หรอก !!