BRC Food Safety ข้อ 7 Personnel Part 1

ข้อกำหนด BRC Global Standard for Food Safety Ver 6 พร้อมแนวทางการเตรียมรับการตรวจประเมิน (จะทะยอยลง จนกว่าจะครบนะคะ แล้วรวมเล่มให้ ดาวน์โหลดที่หลังคะ)

บทความโดย This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

7. Personnel

7.1

Training Raw material handling, preparation, processing, packing and storage areas

การฝึกอบรม การจัดการวัตถุดิบ, การเตรียม, การผลิต, การบรรจุ และ พื้นที่การจัดเก็บ

FUNDAMENTAL Statement of Intent

The company shall ensure that all personnel performing work that affects product safety, legality and quality are demonstrably competent to carry out their activity, through training, work experience or qualification.

องค์กรต้องมั่นใจว่าบุคลากรที่ทำงานที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัย, ความสอดคล้องตามข้อกำหนดกฎหมายและคุณภาพทั้งหมด มีขีดความสามารถที่จะทำหน้าที่, ผ่านการฝึกอบรม, ประสบการณ์ทำงานหรือรับรอง

7.1.1

All relevant personnel, including temporary staff and contractors, shall be appropriately trained prior to commencing work and adequately supervised throughout the working period.

บุคลากรที่เกี่ยวข้องทั้งหมด,รวมถึงพนักงานชั่วคราว และ ผู้รับเหมาต้อง ได้รับการอบรมอย่างเหมาะสมก่อนเริ่มทำงาน รวมถึงได้รับการดูแลอย่างเพียงพอตลอดระยะการปฎิบัติงาน.

Initial Training

การอบรมปฐมนิเทศและการควบคุมดูแลพนักงานต้องดำเนินการกับพนักงานทั้งหมด ซึ่งได้แก่พนักงานชั่วคราว พนักงานตามฤดูกาล รายวัน หรือจ้างเหมา บริษัทต้องดำเนินการการฝึกอบรมก่อนเริ่มงาน เช่น การปฐมนิเทศพนักงานใหม่ เป็นต้น การอบรมในส่วนที่มีผลกระทบกับความปลอดภัยในอาหาร เช่น การทำความสะอาด ผู้คุมเครื่องจักร พนักงานตรวจสอบคุณภาพ เน้น ผู้รับเหมา งานตามฤดูกาล หรือจ้างเหมาชั่วคราวด้วย ต้องมีการทดสอบเพื่อแสดงถึงความเข้าใจช่วงปฐมนิเทศ หากไม่เข้าใจต้องอบรมเพิ่ม หากตอบผิดต้องมีการเฉลยเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง หากหลักสูตรใดในการปฐมนิเทศมีการเปลี่ยนแปลงควรมีการอบรมเพิ่มทั้งหมดในเรื่องที่เปลี่ยนด้วย ต้องมีบันทึกการฝึกอบรม เก็บไว้ หัวข้อการอบรมควรครอบคลุม:

  • นโยบายความปลอดภัยในอาหาร
  • กฏระบียบและสุขลักษณะส่วนบุคคล
  • ระเบียบปฏิบัติกรณีแก้วแตก
  • สุขภาพและความปลอดภัย
  • นโยบายคุณภาพ
  • การก่อภูมิแพ้และการควบคุม

7.1.2

Where personnel are engaged in activities relating to critical control points, relevant training and competency assessment shall be in place.

ในกรณีที่บุคลากรได้รับการว่าจ้างให้ทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับจุดควบคุมวิกฤต, ต้อง ได้รับการฝึกอบรม และ ได้มีการประเมินความสามารถอย่างเหมาะสม

Critical Control Point Training

เพื่อให้แน่ใจว่าการชี้บ่งจุด CCPs ใน HACCP Plan ได้รับการจัดการอย่างถูกต้อง กำหนดเกณฑ์, วิธีการ, ค่า CL, การเฝ้าระวังติดตาม การเบี่ยงเบน การแก้ไข การบันทึก จึงต้องมีระบบในการทวนสอบอย่างพอเพียง มีการถ่ายทอดแก่ผู้รับผิดชอบในด้านนั้นๆ พร้อมจัดเก็บบันทึก และตรวจสอบอีกครั้งในการทำ Internal audit

7.1.3

The company shall put in place documented programmes covering the training needs of relevant personnel. These shall include as a minimum:

•identifying the necessary competencies for specific roles

•providing training or other action to ensure staff have the necessary competencies

•reviewing the effectiveness of training

•the delivery of training in the appropriate language of trainees.

บริษัทต้องมีโปรแกรมการฝึกอบรมไว้เป็นเอกสาร ซึ่งครอบคลุมความจำเป็นในการฝึกอบรมของบุคลากรที่เกี่ยวข้องสิ่งนี้อย่างน้อยต้อง รวมถึง:

การบ่งชี้ความสามารถที่จำเป็นสำหรับบทบาทเฉพาะ

จัดการอบรมหรือการปฎิบัติอื่น ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าเจ้าหน้าที่มีความสามารถที่จำเป็น

ทบทวนประสิทธิผลของการฝึกอบรม

พิจารณาจัดการฝึกอบรมให้เหมาะสมกับภาษาของผู้เข้ารับการอบรม

Training Program

ต้องมีการจัดทำโปรแกรมการฝึกอบรมหรือ Training need ของแต่ละ ตำแหน่ง เช่นต้องมีความรู้ความสามารถในด้านใดโดยเฉพาะ ต้องมีความเชี่ยวชาญพิเศษ หรือต้องผ่านการฝึกอบรมใดมาก่อน เช่น การใช้สารเคมี ใช้ยาฆ่าแมลง หรืออุปกรณ์พิเศษ หรืออาจทำเป็น Training Matrix เป็น Procedure / WI ก็ได้ โดย ไม่ต้องแปลเป็นภาษาอื่นแต่ต้องมีกลไกในการสื่อให้พนักงานภาษาอื่นๆทราบได้ อาจใช้รูปแบบ รูปภาพช่วยในการฝึกอบรม หรือการใช้ล่าม เป็นต้น

ใช้การฝึกอบรมภายนอกหรือภายในก็ได้ แต่ต้องมั่นใจว่าการฝึกอบรมดังกล่าวมีประสิทธิภาพ เช่นต้องผ่านการประเมินความสามารถในส่วนที่งานที่รับผิดชอบ เป็นต้น

7.1.4

Records of all training shall be available. This shall include as a minimum:

•the name of the trainee and confirmation of attendance

•the date and duration of the training

•the title or course contents, as appropriate

•the training provider.

Where training is undertaken by agencies on behalf of the company, records of the training shall be available.

บันทึกการอบรมทั้งหมด ต้องจัดมีพร้อม.

สิ่งนี้ อย่างน้อย ต้องรวมถึง:

ชื่อผู้เข้าร่วมและหลักฐานการเข้าร่วม

วันที่และระยะเวลาการอบรม

ชื่อเรื่องหรือเนื้อหาหลักสูตร,ตามความเหมาะสม

ผู้ให้การอบรม

หากการฝึกอบรมดำเนินการโดยผู้อื่นในนามของบริษัท, บันทึกการฝึกอบรมต้องมีอยู่

Training record

หลักฐานของการฝึกอบรมต้องมีครบ เช่น ชื่อผู้เรียน ผู้สอน หลักสูตรและวันที่อบรม ข้อมูลนี้อาจอาจอยู่ในใบ Cer หรือเนื้อหาที่ฝึกอบรมจากการฝึกอบรมภายในหรือภายนอกก็ได้ นอกจากนั้นต้องจัดเก็บบันทึกการฝึกอบรมสำหรับพนักงานชั่วคราว,แรงงานจาก agercy หรือหน่วยงานที่ปรึกษาภายนอก โดยมีการอ้างชื่อผู้เรียน วันที่ ผู้สอน และหรือผู้แปล การฝึกอบรมต้องดำเนินโดยผู้ที่มีความรู้ความสามารถ

ต้องลงชื่อรับรองพร้อมวันที่โดยผู้อบรมและผู้รับการอบรม

7.1.5

The company shall routinely review the competencies of its staff. As appropriate, it shall provide relevant training. This may be in the form of training, refresher training, coaching, mentoring or on-the-job experience.

บริษัท ต้อง มีการทบทวนความสามารถของพนักงานอย่างสม่ำเสมอ.

ตามความเหมาะสม,ต้องจัดเตรียมการอบรมที่เกี่ยวข้อง.สิ่งนี้อาจอยู่ในรูปแบบของการอบรม, การอบรมซ้ำ, การสอนงาน, พี่เลี้ยง หรือ ฝึกสอนหน้างาน

Competency

บริษัทจะต้องมีระบบการประเมินผลความสามารถของพนักงานอย่างต่อเนื่องเช่น ซักถามรายบุคคล สอบปากเปล่า ดูการทำงานโดยหัวหน้างาน ผลจากการ line inspection / internal audit/review record หรือใช้ระบบ Refresh / พี่เลี้ยง / OJT ต้องรวมถึงความสามารถด้านภาษาของพนักงานจากตัวแทนและพนักงานชั่วคราว ซึ่งอาจอยู่ในรูปการทดสอบภาษา ควรประเมินความสามารถของพนักงานตามความถี่ เช่นควรเป็นปีละ 1 ครั้ง

7.2

Personal hygiene Raw material handling, preparation, processing, packing and storage areas

สุขลักษณะส่วนบุคคล พื้นที่จัดเก็บวัตถุดิบ พื้นที่เตรียมการ พื้นที่ควบคุมกระบวนการ พื้นที่บรรจุและพื้นที่จัดเก็บ

Statement of Intent

The company’s personal hygiene standards shall be appropriate to the products produced, documented, and adopted by all personnel, including agency staff, contractors and visitors to the production facility.

มาตรฐานสุขอนามัยส่วนบุคคลของบริษัทต้องเหมาะสมต่อการผลิตผลิตภัณฑ์,ได้รับจัดทำเป็นเอกสาร, และ นำมาใช้กับบุคลากรทุกคน รวมถึงผู้รับจ้างผ่านนายหน้า, ผู้รับเหมา และผู้เยี่ยมชมกระบวนการผลิต

7.2.1

 

The requirements for personal hygiene shall be documented and communicated to all personnel. This shall include as a minimum the following requirements :

•Watches shall not be worn.

•Jewellery shall not be worn, with the exception of a plain wedding ring or wedding wristband.

•Rings and studs in exposed parts of the body, such as ears, noses, tongues and eyebrows, shall not be worn.

•Fingernails shall be kept short, clean and unvarnished. False fingernails shall not be permitted.

•Excessive perfume or aftershave shall not be worn.

Compliance with the requirements shall be checked routinely.

ข้อกำหนดสำหรับสุขลักษณะส่วนบุคคลต้องจัดทำเป็นเอกสาร และ ได้รับการสื่อสารไปยังบุคลากรทั้งหมด

สิ่งนี้อย่างน้อยต้องรวมถึง:

ต้องไม่สวมนาฬิกา

ต้องไม่สวมเครื่องประดับ, ยกเว้นแหวนหมั้นแบบเรียบ, สายรัดข้อมือแต่งงาน

ต้องห้ามใส่ห่วงหรือหมุดที่เจาะตามร่างกาย เช่น หู, จมูก, ลิ้น และ คิ้ว

เล็บต้องสั้น สะอาด ไม่ทาเล็บ และ ต้องไม่ใช้เล็บปลอม

ต้องไม่ใส่น้ำหอมหรือครีมหลังการโกนหนวดมากเกินไป

การสอดคล้องกับข้อกำหนดนี้ ต้องได้รับการตรวจอย่างเป็นประจำ

Personal hygiene policy

ต้องจัดทำมาตรฐานการควบคุมสุขลักษณะส่วนบุคคล โดยจัดทำเป็นเอกสารและต้องได้รับการปฏิบัติตามจากพนักงานทุกระดับ รวมทั้งผู้เข้าเยี่ยมชมและผู้รับจ้างช่วง ผู้เข้าเยี่ยมชมและผู้รับจ้างช่วงต้องได้รับทราบ เข้าใจ ยอมรับและปฏิบัติตามกฏระเบียบด้านสุขภาพ สุขลักษณะ และความปลอดภัยก่อนเข้าพื้นที่มีการทำบันทึกการตรวจ GMP ตรวจรายวัน / รายสัปดาห์ การสอบถาม ตอบ ตามรอบเวลา

7.2.2

Hand cleaning shall be performed on entry to the production areas and at a frequency that is appropriate to minimise the risk of product contamination.

การล้างมือต้องดำเนินการที่ทางเข้ากระบวนการผลิต และ ความถี่ที่เหมาะสมเพื่อลดความเสี่ยงในการปนเปื้อนสู่ผลิตภัณฑ์

Hand cleaning

ข้อแนะนำในการล้างมือ (ตามข้อ 4.8.6) ต้องดำเนินการก่อนเข้าพื้นที่ผลิตและหลังจาก

  • การรับประทานอาหาร
  • การสูบบุหรี่
  • การใช้ห้องน้ำ
  • การไอหรือการจามใส่มือ
  • การสัมผัสหน้าหรือจมูก
  • การสัมผัสหรือหยิบสิ่งของบนพื้น
  • การผูกเชือกรองเท้า
  • การสัมผัสกับวัสดุที่ไม่เหมาะสม
  • การใช้บันได

7.2.3

All cuts and grazes on exposed skin shall be covered by an appropriately coloured plaster that is different from the product colour (preferably blue) and containing a metal detectable strip. These shall be company issued and monitored. Where appropriate, in addition to the plaster, a glove shall be worn.

บาดแผลและรอยฉีกขาดบนผิวหนัง ต้อง ปิดบาดแผลด้วยพลาสเตอร์ที่มีสีที่แตกต่างจากสีของผลิตภัณฑ์ (ควรเป็นสีน้ำเงิน) และ มีส่วนประกอบของโลหะที่สามารถตรวจจับได้.สิ่งนี้ต้องเป็นประเด็นของบริษัทและเฝ้าระวัง.ในกรณีที่เหมาะสม,เพิ่มเติมนอกจากพลาสเตอร์ , ต้องใส่ถุงมือครอบ

Cuts and grazes

หากเกิดบาดแผลขึ้นต้องได้รับการป้องกันก่อนปนเปื้อนสู่ผลิตภัณฑ์ ต้องจัดทำนโยบายเป็นเอกสารหากมีบาดแผลต้องดำเนินการอย่างไร มีระบบการควบคุมการใช้ การเบิกจ่าย จำนวนที่จ่ายพลาสเตอร์แต่ละครั้งต้องควบคุม มี log book, จ่ายใคร วันไหน เวลาใด การคืน กันหายไปในกระบวนการ ระบบตรวจสอบแต่ละกะ เปิด/ปิดกะ ระบบให้พนักงานแจ้งหัวหน้าหากทำซากพลาสเตอร์หาย พร้อมระบุหมายเหตุ

พลาสเตอร์ที่ใช้ควรเป็นสีฟ้าเพื่อแยกได้ง่าย ต้องมีส่วนของโลหะเพื่อใช้ตรวจสอบ และต้องป้องกันอีกครั้งโดยสวมถุงมือทับเมื่อติดพลาสเตอร์

7.2.4

Where metal detection equipment is used, a sample from each batch of plasters shall be successfully tested through the equipment and recordsshall be kept.

หากมีการใช้เครื่องตรวจจับโลหะ, ตัวอย่างพลาสเตอร์แต่ละรุ่น ต้อง ได้รับการทดสอบโดยผ่านเครื่องตรวจจับโลหะ และ ต้องเก็บบันทึกไว้

Metal detectable Plaster

เพื่อให้มั่นใจว่าพลาสเตอร์ที่ซื้อมาสามารถตรวจจับได้ ต้องมีการสุ่มพลาสเตอร์ในแต่ละ batch เพื่อทดสอบการตรวจจับ ด้วยเครื่องตรวจจับโลหะ หรือ x-ray ผลการตรวจต้องอยู่ในรูปแบบบันทึก หากไม่มีการใช้เครื่องตรวจจับโลหะ ต้องมีบันทึกการตรวจเช็คสภาพก่อนและหลังการใช้ บันทึกการควบคุมการแจกจ่ายพลาสเตอร์ มีอยู่ จ่ายไป คงเหลือ

7.2.5

Processes and written instructions for staff shall be in place to control the use and storage of personal medicines, so as to minimise the risk of product contamination.

กระบวนการและเอกสารการปฎิบัติงานสำหรับพนักงาน ต้องมีอยู่ เพื่อการควบคุมและจัดเก็บยาส่วนบุคคล ,เพื่อลดความเสี่ยงในการปนเปื้อนไปสู่ผลิตภัณฑ์

Personal medicines

ต้องมีการควบคุมยาส่วนบุคคลเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีความเสี่ยงต่อผลิตภัณฑ์ โดยต้องจัดทำเอกสารระเบียบการปฏิบัติเพื่อใช้ควบคุม ไม่ควรนำยาส่วนบุคคลเข้าพื้นที่ผลิต หากมียาที่ต้องติดตัวจริงๆ เช่น ผู้ป่วยโรคหอบหืดหรือโรคเบาหวาน และต้องมีระบบแจ้งกล่าวหากต้องการนำยาเข้าพื้นที่ผลิต