ความเข้าใจองค์กรและบริบทขององค์กร ISO14001:2015

ISO14001:2015 

ข้อกำหนด

4.1 Understanding the organization and its context

ความเข้าใจองค์กรและบริบทขององค์กร

The organization shall determine external and internal issues that are relevant to its purpose and that affect its ability to achieve the intended outcomes of its environmental management system. Such issues shall include environmental conditions being affected by or capable of affecting the organization.

องค์กรต้องพิจารณากำหนดประเด็นภายนอกและภายในที่เกี่ยวข้องกับจุดประสงค์ขององค์กรและผลกระทบต่อความสามารถขององค์กรในการบรรลุผลลัพธ์ตามผลสัมฤทธิ์ที่ต้องการจากระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม. ประเด็นเหล่านี้ต้องรวมถึงสภาพแวดล้อมที่กาลังได้รับผลจากองค์กร หรือ มีความสามารถในการส่งผลกระทบต่อองค์กร
ความหมาย


เจตนารมณ์

เจตจารมณ์ของข้อกำหนดข้อ 4.1 คือให้ความเข้าใจในภาพรวม ,ได้เห็นแนวคิดของประเด็น(issues)สำคัญที่สามารถส่งผลไม่ว่าด้านบวกหรือลบต่อการประกอบการขององค์กร ในการที่องค์กรต้องจัดการความรับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อมของตน เพื่อเป็นกรอบที่จะต้องนำไปใช้ในการวางระบบการบริหารสิ่งแวดล้อม

ประเด็น (issues) เป็นหัวข้อสำคัญสำหรับองค์กร เพื่อทำการคิด วิเคราะห์ ถกเถียง ศึกษา สรุปผล เพื่อทำการการกำหนดมาตรการควบคุม และการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ใดๆ ที่อาจมีผลต่อความสามารถขององค์กรเพื่อให้บรรลุผลที่ตั้งใจของระบบการบริหารสิ่งแวดล้อม ที่องค์กรกำหนดไว้

คำว่า "บรรลุผลสัมฤทธิ์ที่ต้องการ - intended outcome " หมายความว่า

อะไรที่องค์กรต้องการจากระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม ซึ่งรวมหมายถึง การปรับปรุงสมรรถนะด้านสิ่งแวดล้อม การสอดคล้องกันการปฏิบัติตามพันธกรณี และการบรรลุวัตถุประสงค์ด้านสิ่งแวดล้อม เป็นขั้นต่ำ ซึ่งองค์กรสามารถกำหนดกรอบโจทย์ในการวางระบบเพิ่มเติมมากกว่านี้ได้ (เช่น CSR)

องค์กรแต่ละองค์กรไม่เหมือนกัน ซึ่งเป็นผลมาจากปัญหาภายนอก และภายในซึ่งรวมถึง ความพร้อมของเงินสนับสนุนและการมีส่วนร่วมของพนักงาน

บริบทขององค์กรยังมีผลมาจาก ความซับซ้อน โครงสร้าง กิจกรรม และ สถานถิ่นที่ตั้งของหน่วยงานของทั้งองค์กร ไม่ว่าสำนักงาน โรงงาน ไซด์งานสำรอง


 

ข้อกำหนดนี้มีความต่อเนื่องกับข้อกำหนดไหนบ้าง

ความเข้าใจองค์กรและบริบทขององค์กรนี้ ก็เพื่อจัดทำ นำระบบไปปฏิบัติ ธำรงรักษา และปรับปรุงระบบการบริหาร สิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง (ดู 4.4)

ประเด็นภายใน และภายนอกที่ถูกพิจารณาใน 4.1 นี้ ส่งผลต่อความเสี่ยงและโอกาสองค์กร หรือต่อระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม (ดู 6.1.1 - 6.1.3)

ซึ่งรวมถึง สิ่งที่่องค์กรต้องพิจารณา กำหนดสิ่งที่จำเป็น เพื่อระบุและจัดการ (ให้ดูที่ 6.1.4, 6.2, ข้อ 7 ,ข้อ 8 ส่วนและ ข้อ 9.1)


ทำไปทำไม

กระบวนการนี้ ใช้เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับบริบทขององค์กร

ซึ่งเพื่อให้มีความรู้ ที่ซึ่งสามารถใช้โดยองค์กรเพื่อการวางแผน ดำเนินการ ระบบการบริหารสิ่งแวดล้อม

กระบวนการนี้ควรทำให้ง่ายต่อการปฏิบัติเพื่อสร้างมูลค่าให้กับองค์กร และก่อให้เกิดความเข้าใจทั่วไปว่าอะไรเป็นปัญหาที่สำคัญที่ต้องได้รับการบริหารจัดการ

กระบวนการสามารถทำได้อย่างง่ายหรือซับซ้อนแล้วแต่ความต้องการขององค์กร

และจะดีมากๆ ในการจัดทำเอกสารขั้นตอนและผลที่ได้ให้เป็นเอกสาร


เอาผลที่ได้ไปทำอะไรได้บ้าง

ผลการทบทวนบริบทนี้สามารถใช้เพื่อช่วยองค์กรทำความเข้าใจและกำหนดขอบเขตของระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม

เพื่อกำหนดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับอุปสรรคและโอกาส

เพื่อจัดทำหรือการทำให้บรรลุนโยบายสิ่งแวดล้อม

เพื่อจัดทำวัตถุประสงค์ด้านสิ่งแวดล้อม

และพิจารณากำหนดประสิทธิผลในการสอดคล้องกับภาระหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมายกฏระเบียบที่เกี่ยวข้อง


หลักการในการคัดกรองประเด็นไปจัดการ

เพื่อเข้าใจว่าอะไรคือประเด็นที่สำคัญที่องค์กรต้องจัดการ ในขั้นตอนนี้จึงควรคำนึงถึง

  • อะไรคือตัวผลักดันหลักและแนวโน้ม
  • อะไรที่เป็นปัญหาในปัจจุบัน
  • อะไรที่น่าสนใจและควรได้รับการเปลี่ยนแปลง
  • อะไรที่ทำให้ดีกว่านี้ได้ซึ่งรวมถึงการปรับปรุงสมรรถนะสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง
  • มีโอกาสในการสร้างความสามารถในการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น  รวมถึงการลดต้นทุน การสร้างมูลค่าเพิ่มขึ้นให้ลูกค้า รวมถึงการปรับปรุงภาพลักษณ์องค์กรหรือตราสินค้า

ขั้นตอน

ในการจัดทำระบบการบริหารสิ่งแวดล้อม หรือปรับปรุงระบบการบริหารสิ่งแวดล้อม หรือการหลอมรวมระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมภายในเข้ากับธุรกิจที่มีอยู่

องค์กรควรทำการทบทวนบริบทของตนโดย;

a ระบุ ประเด็นภายในและภายนอกที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสภาพสิ่งแวดล้อม(environmental conditions) และเหตุการณ์ ที่ซึ่งเกี่ยวข้องกับกิจกรรมผลิตภัณฑ์และบริการ

b พิจารณาว่าประเด็นเหล่านี้จะสามารถกระทบต่อวัตถุประสงค์ขององค์กรและความสามารถเพื่อให้บรรลุผลวัตถุประสงค์ของระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมขององค์กรอย่างไร

c ระบุโอกาสในการปรับปรุงสมรรถนะด้านสิ่งแวดล้อม

ในการทบทวน อาจมีข้อควรพิจารณาเพิ่มเติมเข่น

a สร้างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมผ่านการจัดซื้อ

b โอกาสในการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันจากการลดต้นทุน และสร้างมูลค่าเพิ่มสำหรับลูกค้า และ

c ความคิดเชิงวัฏจักรชีวิต

 


 

ตัวอย่าง

ตัวอย่างของประเด็นภายใน ภายนอก ที่ซึ่งเกี่ยวข้องกับบริบทองค์กร ประกอบด้วย

a) สภาพสิ่งแวดล้อมเกี่ยวข้องกับ สภาพภูมิอากาศ, คุณภาพอากาศ, คุณภาพน้ำ, ดินที่ใช้, การปนเปื้อนที่มีอยู่, ทรัพยากรธรรมชาติ, และความหลากหลายทางชีวภาพ ที่สามารถส่งผลกระทบต่อทั้งวัตถุประสงค์ขององค์กร หรือได้รับผลจากประเด็นสิ่งแวดล้อมกระทบตามแง่มุมของสิ่งแวดล้อม

b) วัฒนธรรมภายนอก สังคม การเมือง กฎหมาย ข้อบังคับ การเงิน เทคโนโลยี เศรษฐกิจ ธรรมชาติ และสถานการณ์การแข่งขัน ไม่ว่าระดับนานาชาติ, ประเทศ, ภูมิภาค หรือท้องถิ่น

c) ลักษณะภายในหรือเงื่อนไขขององค์กร เช่นกิจกรรม ผลิตภัณฑ์และบริการ ทิศทางเชิงกลยุทธ์ วัฒนธรรม และกำลังความสามารถ (เช่นคน ความรู้ กระบวนการ ระบบ)

 

ตัวอย่างปัจจัยภายนอก :

  • การเมือง เศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยี กฎหมาย และข้อบังคับ
  • ความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทาน (Supply chain resilience)
  • ความอ่อนไหวของตลาด ปัญหาที่อยู่อาศัยและความหลากหลายทางชีวภาพ
  • ประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจโดยรวมในประเทศ
  • แผนเศรษฐกิจในอนาคต
  • เงื่อนไขทางการค้า (ความเชื่อมั่นของประชากร/ตลาด etc.)
  • ความคาดหวังของลูกค้า
  • มาตรฐานและการรับรองภายในอุตสาหกรรม
  • ผลกระทบของความผันผวนของสภาพภูมิอากาศ
  • เปลี่ยนแปลงตามสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่น (การพัฒนา/กำหนดพื้นที่อนุรักษ์/พัฒนาพื้นที่ป้องกันน้ำท่วม เป็นต้น )
  • ราคาวัตถุดิบ/เชื้อเพลิง – แรงกดดันจากนานาชาติ ความดันของตลาดภายในประเทศ, รัฐบาล,การ จัดเก็บภาษี ต้น
  • ระเบียบ ข้อบังคับทั่วไปที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรม
  • สมาคมการค้า และอำนาจการต่อรอง/การล็อบบี้( lobbying powers)
  • ผลกระทบต่อเพื่อนบ้าน

ประเด็นภายในที่อาจคำนีงถึง

  • การกำกับดูแลองค์กรและโครงสร้างการกำกับดูแล ตามสัญญา และชาติกรอบ รวมทั้งลงทะเบียน และ รายงาน ชนิดของโครงสร้าง รวมทั้งลำดับชั้น เมตริกซ์ โครงการ กิจการร่วมค้าและบริการสัญญา และความสัมพันธ์ของบริษัทแม่ บทบาท และความรับผิดชอบ และ อำนาจหน้าที่
  • ปฏิบัติตามกฎหมาย การบ่งชี้และภาระผูกพันตามกฎหมาย
  • นโยบาย วัตถุประสงค์ และ กลยุทธ์ วัตถุประสงค์ วิสัยทัศน์ กลยุทธ์ และทรัพยากรที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุ
  • กำลังความสามารถและกำลังการผลิต – ความสามารถในองค์กร และความรู้ทรัพยากรและความสามารถ (เช่นเงินทุน เวลา คน ภาษา กระบวนการ ระบบเทคโนโลยี และการบำรุงรักษา);
  • ระบบสารสนเทศ การไหลของสารสนเทศและกระบวนการตัดสินใจ (อย่างเป็นทางการ และไม่เป็นทางการ) และเวลาที่ใช้
  • ความสัมพันธ์ภายในกับ และภาพลักษณ์ และคุณค่าต่อผู้มีส่วนได้เสียภายใน
  • ระบบการบริหารและมาตรฐาน – จุดแข็งและจุดอ่อนของระบบการจัดบริหารที่มีอยู่ขององค์กร แนวทางและรรูปแบบที่ใช้โดยองค์กร เช่น งานการบัญชี และการเงิน คุณภาพ ความปลอดภัย และ สุขภาพ
  • ลักษณะรูปแบบองค์กรและวัฒนธรรม – ธุรกิจครอบครัว บริษัทส่วนตัว หรือสาธารณะ จัดการ และลักษณะความเป็นผู้นำ วัฒนธรรมเปิดเผย วัฒนธรรมแบบปิด และรวมถึงกระบวนการตัดสินใจ
  • สัญญา – รูปแบบ เนื้อหา และขอบเขตของความสัมพันธ์ตามสัญญา

ตัวอย่างประเด็นภายใน

  • การขนส่ง และการเลือกไซต์งาน ต้นทุน/บริการ
  • วัฒนธรรมภายในองค์กร / การกำกับดูแลและปัญหาอย่างต่อเนื่อง
  • โอกาสที่จะเปลี่ยนจากผลิตภัณฑ์ เป็นการให้บริการเช่น ลีสซิ่งและการบำรุงรักษาอาคาร
  • ความสัมพันธ์ระหว่าง supply chain (การสอบกลับที่มาของท่อนไม้ เป็นต้น)
  • มีโอกาสในการวางแผนการเปลี่ยนมาใช้วัตถุดิบที่มีความยั่งยืน (ผลิตภัณฑ์/บรรจุภัณฑ์)
  • การใช้วัสดุต่างๆ (recycled, durable, reusable, recyclable, biodegradable)
  • การจัดการพลังงาน (Energy management )
  • ของเสียจากวัตถุดิบ การกำจัดขยะ การพัฒนาตลาดจากวัสดุพลอยได้( by-products)
  • โครงสร้างขององค์กร (Structure of the organization)
  • บทบาท หน้าที่ ภายในองค์กร (Roles within the organization)
  • กลยุทธ์การเติบโตทางธุรกิจ (Business growth strategy)
  • ผลตอบแทนจากการลงทุน (Return on investment)
  • คุณภาพของผลิตภัณฑ์/บริการ (Product/service )
  • เงินทุน (Capital expenditure)
  • สภาพคล่อง (Solvency)
  • หนี้และดอกเบี้ย (Debt and interest)
  • หนี้สิน Liabilities (e.g. Public)
  • การค้า ซื้อขายอย่างยุติธรรม
  • ความน่าเชื่อถือ คุณภาพ และความสามารถในการทำงาน
  • ความมั่นคงของการปฏิบัติงาน / ทรัพยากรบุคคล
  • ผลกระทบของการไม่เป็นองค์กร (Impact of unionization)
  • ระดับการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ ( Staff training levels)
  • สัญญา ข้อตกลงกับลูกค้า
  • เงื่อนไขการชำระเงินจากลูกค้า
  • สภาพคล่องของลูกค้า
  • ขยายฐานลูกค้า
  • เงินหมุนเวียน
  • ความแข็งแรงของธุรกิจเพื่อรองรับความต้องการเงินทุน
  • ความยืดหยุ่นของโครงสร้างพื้นฐาน (Resilience of infrastructure)
  • ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ลงทุน (รวมไปถึงสถาบันทางการเงิน)
  • อันดับเครดิตและความพร้อม
  • สุขภาพและความปลอดภัย ที่ไซต์งาน และไซต์ลูกค้า
  • ออกแบบเพื่อสิ่งแวดล้อม

END