ส่วนหนึ่งของความล้มเหลว คือการคิดว่า ISO9001 คือยาวิเศษ คือสิ่งที่ฟ้าประทาน มาโดยคนในองค์กรไม่เกี่ยวข้อง คิดว่าแค่มีเอกสารแล้วบริษัทจะดีขึ้น
หากเราต้องการให้สิ่งต่างๆดีขึ้น นั่นแปลว่าต้องมีการเปลี่ยนแปลง คนกลัวการเปลี่ยนเสมอ มีตั้งแต่ ระดับกังวลต่อสิ่งที่เปลี่ยนแปลง ระดับการเกลียดการเปลี่ยนแปลง ระดับต่อต้านการเปลี่ยนแปลง การทำ ISO เป็นการเปลี่ยนแปลงแบบหนึ่ง การมีเอกสารบางฉบับอยู่ ไม่ทำให้องค์กรคุณมีประสิทธิภาพสูงขึ้นหรอก โดยเฉพาะความเข้าใจผิดๆ ที่ว่า ทำ ISO คือ การเขียนในสิ่งที่ทำ ทำในสิ่งที่เขียน ไม่รู้ใครสอนกันมา
เคยมีคำกล่าวว่า " เมื่อท่านพูด คนจะฟัง เมื่อท่านทำคนจะเชื่อ " การกระทำ พฤติกรรมของท่านต่างหาก ที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะผู้บริหารระดับสูงและระดับกลาง
ทุกสิ่งที่คุณทำ ทุกสิ่งที่คุณพูด และ ทุกสิ่งที่คุณตัดสินใจ คือสิ่งที่เป็นมาตรวัดว่าคุณมีความสามารถเพียงพอในการทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานหรือไม่
หากระดับการทำงานของตัวผู้จัดการต่ำ ผู้ใต้บังคับบัญชาของหน่วยงานนั้นๆย่อม ไม่มีสิทธิที่จะไปมุ่งหวังว่าคนอื่นจะทำเต็มความสามารถ
หากผู้จัดการใส่ใจคุณภาพ ผู้ใต้บังคับบัญชาก็จะใส่ใจ
หากผู้จัดการใส่ใจผลผลิต ผู้ใต้บังคับบัญชาก็จะสนใจตาม
หากผู้จัดการทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดี ในการทำงานด้วยประสิทธิภาพสูง ผู้ใต้บังคับบัญชาก็ย่อมทำตามแบบอย่างเช่นกัน
การกระตือรือล้น การมุ่งเป้าหมาย การปรับปรุง เป็นเรื่องติดต่อ หากผู้จัดการเป็นตัวอย่างที่ดี ลูกน้องคุณก็จะเป็น
ดังนั้นในหน้าที่ที่สำคัญ คนที่คุณต้องใส่ใจ คือคุณภาพของผู้จัดการในบริษัทคุณ อย่าปล่อยให้เขาสร้างตัวอย่างที่ไม่ดีโดย
ปล่อยให้เขากำหนดเป้าหมายคุณภาพแบบขอไปที
ปล่อยให้เขาละเลยในการติดตาม ตรวจสอบเป้าหมาย
ปล่อยให้เขาอนุมัติ มาตรฐานในการทำงานตามยถากรรม คลุมเตรือ ไม่เคร่งครัด ขาดเป้าหมาย
หากคุณต้องการให้องค์กรแข่งขันได้ ในตำแหน่งฐานะผู้นำองค์กรจำเป็นต้องผลักดัน เคี่ยวเข็ญแม่ทัพของคุณ ซึ่งก็คือผู้จัดการ ผู้ตรวจประเมินภายนอกมีไม่กี่คนหรอกที่เขารักองค์กรคุณมากมาย โดยยอมเสียเวลา สละแรงใจทุ่มเถียงกับผู้จัดการแย่ๆในบริษัทคุณ เพื่อให้บริษัทคุณธำรงความสามารถในการแข่งขันได้
ISO 9001 เป็นแค่เครื่องมือ คุณเป็นผู้ใช้เครื่องมือนี้ หากไม่มีผู้ใช้ เครื่องมือก็เปล่าประโยชน์ ท่านอย่าโทษคนอื่น จนลืมตัวเอง ครับ